หนังสือ “การสิ้นสุดของสิ่งหนึ่ง คือ การเริ่มต้นของสิ่งใหม่เสมอ”
วันนี้อาจพ่ายแพ้ แต่ก็แค่ “วันนี้”
รายละเอียด
ผู้เขียน : หนุ่มเมืองจันท์ (สรกล อดุลยานนท์)
สำนักพิมพ์ : มติชน
ราคา : 200 บาท
iYom reviews
ก่อนอื่นต้องบอกว่าเล่มนี้เป็นเล่มที่ iYom รู้สึกดีเป็นพิเศษที่ได้อ่าน เพราะ
- หนึ่ง ทั้งชื่อหนังสือและการออกแบบปกที่ทำออกมาได้อย่างสวยงามและลงตัว
- สอง concept ของหนังสือเล่มนี้มันดันมาตรงกับช่วงที่ iYom ต้องการกำลังใจ เพื่อใช้ตัดสินใจอะไรบางอย่างในชีวิต
- สาม ที่พิเศษสุดๆ คือ เล่มนี้ได้ลายเซ็นของคุณหนุ่มเป็นเล่มแรกในชีวิต พร้อมกับข้อคิดที่คุณหนุ่มเขียนมาให้ที่ดูจะโดนใจสุดๆ สำหรับ iYom
การสิ้นสุดของสิ่งหนึ่ง คือ การเริ่มต้นของสิ่งใหม่เสมอ ถือเป็นหนังสือชุดฟาสต์ฟูดธุรกิจลำดับที่ 25 ซึ่งไม่ใช่ผลงานเล่มล่าสุดของคุณหนุ่มนะครับ แต่เพราะงานสัปดาห์หนังสือครั้งที่แล้วผมไม่ได้ซื้อมา เลยมาได้เอาเล่มนี้ในงานที่เพิ่งผ่านไป เหลือบไปเห็นว่าพิมพ์ครั้งที่ 3 แล้วนะ แสดงว่าของเค้าดีจริงนะเนี่ย บอกเลยครับจากการไม่ได้อ่านหนังสือของคุณหนุ่มมาพักใหญ่ ทำให้มีความอยากมาก ประกอบกับตอนนี้ “หัวใจ” เหมือนกำลังขาดวัตถุดิบของแรงบันดาลใจไปพอตัว จึงทำให้อ่านหนังสือของคุณหนุ่มครั้งนี้ได้แบบรวดเดียวจบ และไม่ผิดหวังเลยครับ เพราะได้วัตถุดิบของแรงบันดาลใจอย่างดีมากจากเล่มนี้
สำหรับเล่มนี้ iํYom ชอบอยู่หลายบททีเดียวครับ ลองไปดูตัวอย่างกัน
หลง
เป็นตอนที่คุณหนุ่มให้ความหมายของคำว่าหลงได้เทห์ที่เดียวครับ ก่อนหน้า iYom มักจะรู้สึกไม่ดีกับคำๆ นี้และเชื่อว่าหลายคนอาจจะรู้สึกเช่นเดียวกัน แต่คุณหนุ่มนำคำว่า “หลง” มาเล่าในอีกแง่มุมหนึ่ง ได้อย่างน่าคิดเลยครับ
“หลงไหล” จะทำให้งานออกมาดี
“หลงทาง” จะทำให้พบเส้นทางใหม่
วันนี้คุณได้หลงอะไรแล้วหรือยังครับ
เท้า-รองเท้า
เป็นตอนที่คุณหนุ่มให้มุมมองเกี่ยวกับจุดที่คนเราจะเลือกในการพัฒนาตนเอง ซึ่งมีอยู่ 2 แบบ
- เลือกที่จะแก้ไขจุดบกพร่อง หรือจุดที่จะเป็นปัญหา
- เลือกที่จะพัฒนาในจุดแข็งของตัวเองให้เด่นยิ่งๆขึ้นไป
กลยุทธ์สู่ความสำเร็จของคนเก่งมีหลายแบบ
ต้องเลือกให้เหมาะสมกับตัวเรา
กลยุทธ์ก็เปรียบสเหมือนรองเท้า
ต้องเลือกรองเท้าให้เหมาะกับเท้าของเรา
ไม่งั้นรองเท้าจะกัดครับ
ทำผิดเป็นถูก
คุณหนุ่มให้แง่คิดเกี่ยวกับการคิดในสิ่งที่เราไม่มีคล้ายๆ ว่าพลิก “วิกฤต” ให้เป็น “โอกาส” แปร “ลบ” ให้เป็น “บวก” โดยหยิบเอาเรื่องราวของการทำโปรโมชั่นของค่ายแฮปปี้จากดีแทค และการทำธุรกิจของ zip dial บริษัทในประเทศอินเดีย ที่หยิบเอาพฤติกรรมของชาวอินเดียที่มักจะชอบ miss call กันมากกว่าโทรหากัน จึงหยิบมาใช้สร้างแคมเปญที่นำความสำเร็จมาสู่ธุรกิจ หรือแม้แต่ การเล่าถึงนักแสดงตลกสาวอย่างตุ๊กกี้ ที่ถือว่ามีรูปร่างหน้าตาที่ติดลบ แต่เจ้าตัวกลับใช้สิ่งที่ติดลบนี้ให้เป็นประโยชน์ต่อตนเอง จนสร้างความสำเร็จให้กับเธอได้
ในโลกนี้ ไม่มีใครสมบูรณ์พร้อม
ทุกคนล้วนมี “รอยตำหนิ” ทั้งสิ้น
แต่สิ่งที่เราต้องไม่ลืมก็คือ โลกนี้มีหลายมุมให้มอง
อยู่ทึ่เราเลือกมองและเลือกทำ
อย่าให้ “รอยตำหนิ” ทำร้ายเราเด็ดขาด
อยากกก….
ตอนนี้คุณหนุ่มได้เอาเรื่องราวในหนังสือ “ช้าให้ชนะ” ของคาซุโอะ อินาโมริ ผู้ก่อคั้งบริษัทเคียวเซร่า และผู้ชุบชีวิตสายการบิน JAL ด้วยสมการของการทำงานง่ายๆ ที่ว่า
ผลลัพธ์ของงาน = ความสามารถ x ความพยายาม x ทัศนคติ
เขาใช้เครื่องหมาย x ไม่ใช่เครื่องหมาย + เพราะแต่ละส่วนล้วนมีพลังทวีคูณซึ่งกันและกัน
นอกจากนั้นเกณฑ์การให้คะแนน แต่ละหัวข้อก็ไม่เหมือนกัน
- ความสามารถ เขาให้ 0-100
- ความพยายามเขาให้ 0-100
- ทัศนคติ เขาให้ -100 ถึง 100
ฉะนั้นเมื่อใช้เครื่องหมายคูณ ทัศนคติจึงมีความสำคัญมาก เพราะมีทั้งเครื่องหมาย + และ –
ถ้าทัศนคติเป็นบวกมันย่อมส่งผลให้เราทำผลงานออกมาดีได้อย่างแน่นอนแต่ในทางกลับกันถ้ามันติดลบ มันจะน่ากลัวมากเพราะมันจะดึงทั้งความสามารถและความพยายามไปอีกทางหนึ่ง
ซึ่งทัศนคติที่เป็นบวก มันจะเกิดขึ้นได้ก็จาก “ความอยาก” เพราะความอยากเป็นทัศนคติอย่างหนึ่ง
“อยากทำ” และคิดว่าเราทำได้ทัศนคติ +100 ทำอะไรก็สำเร็จ
แสงแดดและร่มเงา
คุณหนุ่มเล่าถึงคำกล่าวหนึ่
และให้เราเรียนรู้ที่จะมีความสุ
เหมือนจะบอกเราว่า
“เต็มที่เมื่อทำงาน และเมื่อถึงเวลาพักก็ต้องปล่
อยวางให้เป็น”
ราคาของความคิดถึง
“หมอเคยได้ยินว่าคนที่ไม่กล้
เป็นประโยคที่ผมจดจำได้ดีที่สุดในหนังเรื่อง “ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ” และเชื่อว่าหลายคนที่ได้ดูก็
ซึ่งบทนี้เป็นบทสุดท้ายที่คุณหนุ่ม ได้มาเล่าถึงที่
แต่ละคนอาจจะมีราคาของความคิดถึงไม่เท่ากัน แต่เชื่อว่าทุกคนมีคนที่ให้คิดถึงเหมือนกัน จงดูแลตัวเองให้ดี เราจะได้มีโอกาสดูแลคนที่เราคิดถึงนั้นนานๆ ครับ
ข้อคิด ดึงสติ
- “แผล” ในชีวิตแม้จะทำให้เจ็บปวดในครั้งแรก แต่ก็ทำให้เราเรียนรู้ และเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรง …ตลอดไป
- ทุกครั้งที่เจอสิ่งใหม่ที่ไม่รู้จัก ผมจะค่อยๆ ทำความรู้จักกับสิ่งนั้น เหมือนแหย่ขาลงน้ำเพื่อหยั่งความลึก แต่ไม่จินตนาการในแง่ลบมากเกินไป ซึ่งบางครั้งก็พบว่า “ความมืด” ก็มีเสนห์
- “บางครั้งเราโง่บ้างก็ดี” ถ้าฉลาดทุกเรื่อง เราจะมีคำตอบกับทุกเรื่องที่ว่า “ได้” หรือ “ไม่ได้” และเราจะไม่กล้าทดลองอะไรเลย
- ในยามวิกฤตนั้น “เวลา” สำคัญมาก ยิ่งวิกฤต ยิ่งต้องตัดสินใจให้ “คม” เพราะการแก้วิกฤตนั้นกระทบกับคนและอื่นๆ อีกมากมาย มีดที่ “คม” จะทำให้คนบาดเจ็บน้อยที่สุด
- “ชีวิตที่ใช้” กับ “ชีวิตที่โชว์” เป็นชีวิตจริงๆ ที่เราชอบจริงๆ หรือเราใช้เพื่อโชว์ว่าตัวเองทันสมัย
- ในโลกแห่งความจริง “ผลงาน” จะทำให้เสียง ของคนพูด “ดัง” หรือ “เบา”
- ถ้าเรามี “ความฝัน” ใหญ่ “ความพยายาม” ต้องใหญ่กว่า ขนาดของ “ความพยายาม” ต้องใหญ่กว่า “ความฝัน” เสมอ
- ใครที่มี มุทิตาจิต รู้สึกชื่นชมยินดีกับผู้อื่น แทนที่จะอิจฉาริษยาที่คนอื่นได้ดี คนแบบนี้สามารถเรียนรู้ได้ทั้งชีวิต เพราะเมื่อเรายอมรับว่าคนอื่นเก่ง เราจะอยากรู้ว่าเขาเก่งได้อย่างไร
- เวลาที่เราคิดถึงปัญหา บางครั้งเราก็มองที่ปัจจถบันมากเกินไป หมกหมุ่นแต่ตัวปัญหาในวันนี้ ลืมไปว่า “วันนี้” มี “อดีต” อยู่เบื้องหลัง ทุกปัญหามี “ที่มา” ถ้าเราย้อนกลับไปมอง “ที่มา” บางทีเราอาจจะเจอแนวทางการแก้ปัญหาก็ได้
- “ความลุ่มหลง” มี “พลัง” เมื่อเรา “อิน” กับเรื่องที่ทำมากเท่าไร นอกจากเราจะมีพลังจากการสร้างสรรค์แล้ว “ความอดทน” ของเราจะสูงมาก
- การตัดสินใจผิดพลาด เรายังแก้ไขได้ แต่การไม่ตัดสินใจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
สรุป
หนังสือ “การสิ้นสุดของสิ่งหนึ่ง คือ การเริ่มต้นของสิ่งใหม่เสมอ” เป็นอีกเล่มของคุณหนุ่ม เมืองจันท์ ที่คิดว่าน่าจะสร้างแรงบันดาลใจได้อย่างดี และคิดว่าเพื่อนๆ นักอ่านคงไม่พลาดเล่มนี้กันอยู่แล้ว ใครได้อ่านแล้วลองมาแชร์ ความคิดที่ได้จากเล่มนี้ให้ iYom ฟังบ้างว่าเรารู้สึกแบบเดียวกันหรือเปล่า
